![à¸à¸²à¸«à¸²à¸£à¸«à¸¥à¸±à¸ 5 หมูà¹](https://img.kapook.com/u/2018/wanchalerm/Health_01_61/food800_1.jpg)
![à¸à¸¥à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸à¸«à¸²à¸£à¸¹à¸à¸ าà¸à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸ à¹à¸à¸£à¸à¸µà¸](https://www.honestdocs.co/system/blog_articles/images/000/000/366/large/iStock-505592886_M.jpg)
อาหารหมู่ที่ 1 คือโปรตีน
ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไข่ ปลา นม ซึ่งจัดเป็นแหล่งสำคัญของสารอาหารประเภทโปรตีน มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งยังมีส่วนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยเฉพาะนมซึ่งเป็นแหล่งที่ดีของธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส ร่างกายต้องการแร่ธาตุ 2 ชนิดนี้ในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ที่สำคัญนมยังเป็นแหล่งชองวิตามินบี 2 และบี 12 อีกด้วย
อาหารหมู่ที่ 2 คือคาร์โบไฮเดรต
ได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ขนมจีน ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว เผือก มัน ฟักทอง ข้าวโพด ธัญพืช และแป้งชนิดอื่น ๆ โดยอาหารดังกล่าวมีสารอาหารหลักคือคาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานสำคัญชนิดหนึ่งของร่างกายที่เราควรได้รับประมาณ 8-12 ทัพพี (1 ทัพพีเท่ากับ 5 ช้อนกินข้าว) หรือคิดเป็นสัดส่วนได้ร้อยละ 60-65 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการทั้งหมด แต่ถ้าใครเป็นคนชอบออกกำลังกาย มีกิจกรรมในแต่ละวันมากมาย ก็ควรทานคาร์โบไฮเดรตให้มากขึ้น เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นนั่นเอง
![à¸à¸²à¸«à¸²à¸£à¸«à¸¥à¸±à¸ 5 หมูà¹](https://img.kapook.com/u/2018/wanchalerm/Health_01_61/vegg.jpg)
อาหารหมู่ที่ 3 คือ แร่ธาตุ
เป็นผักใบเขียวและพืชผักชนิดต่าง ๆ ซึ่งแหล่งของสารอาหารประเภทแร่ธาตุ ใยอาหาร และกลุ่มสารพฤกษเคมีที่ผลิตโดยพืช เช่น เบต้าแคโรทีน ที่พบในผักสีเหลือง-ส้ม อย่างแครอท ดอกโสน พริกเหลือง เป็นต้น อีกทั้งยังพบสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่าไลโคปีน ได้จากผักที่มีสีแดงอย่างมะเขือเทศด้วย ซึ่งสารพฤกษเคมีเหล่านี้มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของความเสื่อมสภาพในร่างกาย
ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งนอกจากผลไม้จะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุแล้ว ผลไม้ยังมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลอยู่มากกว่าผัก จึงให้พลังงานกับร่างกายได้พอประมาณ อีกทั้งในผลไม้ทุกชนิดยังมีเส้นใยอาหารค่อนข้างสูงด้วยนะคะ ช่วยแก้ท้องผูกและช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดีเลยเชียวล่ะ เราจึงควรกินผลไม้ 3-5 ส่วนต่อวัน (ผลไม้ 1 ส่วนเท่ากับส้มเขียวหวาน 2 ผลกลาง ชมพู่ 2 ผลใหญ่ หรือฝรั่งครึ่งผลกลาง เป็นต้น) หรือสามารถเทียบปริมาณได้ตามนี้